โรคไขมันในเลือดสูง/ความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานคือปัญหาสุขภาพของพระสงฆ์ ปัจจุบันพระสงฆ์นับแสนป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อ (NCDs)เรื้อรัง

ปัญหาที่พระสงฆ์ในปัจจุบันกำลังประสบคือ ปัญหาสุขภาพ

จากข้อมูลกรมการแพทย์ ปี 2559 พบว่าพระสงฆ์และสามเณรมารับการรักษาที่โรงพยาบาลสงฆ์มากที่สุด 5 อันดับแรกคือ

1.โรคไขมันในเลือดสูง

2.โรคความดันโลหิตสูง

3.โรคเบาหวาน 

4.โรคไตวายเรื้อรัง

5.โรคข้อเข่าเสื่อม

สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดทำโครงการวิจัย “ศึกษาแนวทางการส่งเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีของพระภิกษุสงฆ์”  ปี 2554-2555 พบว่าพระสงฆ์อยู่ในเกณฑ์อ้วน 45.1%  มีโรคประจำตัว 40.2% และพระสงค์มีสุขภาพดี 33.3%

สอดคล้องกับผลการตรวจคัดกรองสุขภาพพระสงฆ์และสามเณรทั่วประเทศ 349,659 รูป ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบปัญหาสุขภาพพระสงฆ์ ดังนี้

เขตกรุงเทพมหานคร            มีภาวะไขมันสูงผิดปกติ ทำให้เกิดโรคอ้วน

ภาคใต้                              มีภาวะกรดยูริกสูงและการทำงานของไตผิดปกติ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ       พบภาวะโลหิตจางและพระสงฆ์อายุ 35 ปีขึ้นไป เสี่ยงต่อการทำงานของไตผิดปกติถึง 8 เท่า และหากมีภาวะอ้วนร่วมด้วย ก็จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคไขมันในเลือดผิดปกติและเบาหวานมากกว่าปกติ 2 เท่า

โดยสาเหตุของการเกิดโรคส่วนใหญ่มาจากปัญหาการบริโภคไม่ถูกหลักโภชนาการ ประกอบกับสถานภาพของพระภิกษุไม่เอื้อต่อการออกกำลังกายทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรค

การหาทางป้องกันแก้ไข

1.สิ่งที่ฆราวาสพึงตระหนัก

ในทุกครั้งที่ตักบาตรหรือนำอาหารมาถวายพระ  ให้พิจารณาอาหารที่เหมาะสม

ม่เป็นอาหารที่ที่มีรสจัด เช่น หวานจัด เค็มจัด อาหารที่มีไขมันสูง อาหารปิ้งย่าง

2.การดูแลสุขภาพพระสงฆ์เป็นเรื่องสำคัญ ต้องได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย

พระสงฆ์หลายรูปอาพาธด้วยโรคต่างๆ ในขณะที่หลายรูปไม่เคยเข้ารับการตรวจสุขภาพ

ทำให้ไม่สามารถรู้ว่ามีภาวะเสี่ยงต่อโรคใดบ้าง องค์กรสงฆ์ องค์กรสาธารณกุศล และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนควรจัดโครงการตรวจสุขภาพประจำปีให้พระสงฆ์

อุปสรรคสำคัญของพระสงฆ์ในการดูแลสุขภาพ

1.พระสงฆ์ไม่สามารถเลือกฉันอาหารเองได้

2.สถานภาพของพระสงฆ์ไม่เอื้อต่อการออกกำลังกาย

3.การไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการต่างๆเป็นเรื่องยุ่งยาก

เสี่ยงต่อการทำผิดพระธรรมวินัย ตั้งแต่การเดินทางจนถึงการรักษาที่มีหมอพยาบาลเป็นผู้หญิง